[แจ้งข่าวสัมมนาออนไลน์ ‼] หัวข้อ การปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535
วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2565 เวลา 14.00 – 17.00น.
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมลงทะเบียนได้ ที่นี่
ในปัจจุบันอุตสาหกรรมทางด้านสารเคมี มีการเจริญเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสารเคมีต่างๆ ได้ถูกใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้น หรือใช้เป็นองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ แต่อย่างไรก็ตามหากมีการใช้สารเคมีดังกล่าวไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้ และสิ่งแวดล้อมโดยรอบได้ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้น ประเทศไทยได้บังคับใช้พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 เป็นกฎหมายหลักในการควบคุมการดำเนินการของสารเคมีที่เข้าข่ายความเป็นอันตรายในกิจกรรมการผลิต การนำเข้า การส่งออกและการครอบครอง ของสารเคมีและผลิตภัณฑ์ที่มีองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งเป็นวัตถุอันตราย
พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ถูกประกาศใช้ในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2535 ภายใต้การดูแลรับผิดชอบของ 4 กระทรวง 6 กรม โดยขอบเขตการรับผิดชอบขึ้นกับภารกิจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน รวมถึงวัตถุประสงค์ของการนำวัตถุอันตรายไปใช้ ดังนี้
ในพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ได้กำหนดความหมายของ “วัตถุอันตราย” ดังนี้
(1) วัตถุระเบิดได้
(2) วัตถุไวไฟ
(3) วัตถุออกซิไดซ์และวัตถุเปอร์ออกไซด์
(4) วัตถุมีพิษ
(5) วัตถุที่ทำให้เกิดโรค
(6) วัตถุกัมมันตรังสี
(7) วัตถุที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม
(8) วัตถุกัดกร่อน
(9) วัตถุที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
(10) วัตถุอย่างอื่นไม่ว่าจะเป็นเคมีภัณฑ์หรือสิ่งอื่นใด ที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อบุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้อม
โดยได้แบ่งออกตามความจำเป็นแก่การควบคุม เป็น 4 ประเภท ซึ่งได้ระบุไว้ใน ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย ซึ่งปัจจุบันออกมาแล้วทั้งหมด 6 ฉบับ
การดำเนินการและการปฏิบัติตามกฎหมายในกิจกรรมการผลิต การนำเข้า การส่งออก และการครอบครองวัตถุอันตรายจะขึ้นอยู่กับชนิดของวัตถุอันตรายและวัตถุประสงค์ของการใช้งานสารเคมีและผลิตภัณฑ์นั้นๆ ตามระเบียบของหน่วยงานผู้รับผิดชอบ ซึ่งการดำเนินการและความรับผิดชอบในการประกาศใช้กฎหมายส่วนใหญ่ จะเป็นของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยตัวอย่างกฎหมายที่สำคัญ เช่น
หากคุณเป็นเจ้าของกิจการที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี เราขอแนะนำให้คุณสำรวจเบื้องต้นว่าสารเคมี หรือผลิตภัณฑ์ใดภายใต้การดูแลของคุณเข้าข่ายการเป็นวัตถุอันตรายตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 หรือไม่ และดำเนินการปฏิบัติตามข้อกำหนดให้ถูกต้องเพื่อให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งการฝ่าฝืนข้อบังคับมีโทษสูงสุดที่กำหนดตามข้อกฎหมาย คือการระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
© 2019 Green and Blue Planet Solutions. All Rights Reserved.