1. ได้ยกเลิก – ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศที่ระบายออกจากโรงงานผลิต ส่ง หรือจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า พ.ศ. 2547 2. ให้คำจำกัดความของคำว่า "โรงไฟฟ้า" "โรงไฟฟ้าเก่า" "โรงไฟฟ้าใหม่" "โรงไฟฟ้าที่ใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิง" "เชื้อเพลิงชีวมวล" และ "ก๊าซชีวภาพ" 3. กำหนดให้อากาศที่ระบายออกจากโรงไฟฟ้าเก่า ต้องมีค่าปริมาณสารเจือปนในอากาศแต่ละชนิด ตามตารางในประกาศฉบับนี้ 4. กำหนดให้อากาศที่ระบายออกจากโรงไฟฟ้าใหม่ ต้องมีค่าปริมาณสารเจือปนไม่เกินกว่าที่กำหนดไว้ ตามตารางในประกาศฉบับนี้ 5. กำหนดให้อากาศที่ระบายออกจากโรงไฟฟ้าที่ใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิง ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าเก่า หรือโรงไฟฟ้าใหม่ ต้องมีค่าปริมาณสารเจือปนไม่เกินกว่าที่กำหนดไว้ ตามตารางในประกาศฉบับนี้ 6. ให้ค่าปริมาณสารเจือปนในอากาศที่ระบายออกจากโรงไฟฟ้าเก่า ตามข้อ 4 (1) ของประกาศฉบับนี้ มีผลใช้บังคับได้ไม่เกิน วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2575 จากนั้นให้ใช้ค่าปริมาณ สารเจือปนในอากาศที่ระบายออกจากโรงไฟฟ้าใหม่ตามที่กำหนดในประกาศฉบับนี้บังคับแทน 7. กรณีโรงไฟฟ้าใช้เชื้อเพลิงร่วมกันตั้งแต่ 2 ประเภทขึ้นไป ให้คำนวณค่าปริมาณสารเจือปนในอากาศจากผลรวมของค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศของเชื้อเพลิงแต่ละประเภท คูณกับสัดส่วนของความร้อน (Heat Input) ของเชื้อเพลิงประเภทนั้น ๆ ค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศ = AU + BV + CW + DX + EY + FZ เมื่อ A = ค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศเมื่อใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงอย่างเดียว B = ค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศเมื่อใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงอย่างเดียว C = ค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศเมื่อใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงอย่างเดียว D = ค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศเมื่อใช้เชื้อเพลิงชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงอย่างเดียว E = ค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศเมื่อใช้ก๊าซชีวภาพเป็นเชื้อเพลิงอย่างเดียว F = ค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศเมื่อใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิงอย่างเดียว U = สัดส่วนของความร้อน (Heat Input) ที่ได้จากเชื้อเพลิงประเภทถ่านหิน V = สัดส่วนของความร้อน (Heat Input) ที่ได้จากเชื้อเพลิงประเภทน้ำมัน W = สัดส่วนของความร้อน (Heat Input) ที่ได้จากเชื้อเพลิงประเภทก๊าซธรรมชาติ X = สัดส่วนของความร้อน (Heat Input) ที่ได้จากเชื้อเพลิงประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล Y = สัดส่วนของความร้อน (Heat Input) ที่ได้จากเชื้อเพลิงประเภทก๊าซชีวภาพ Z = สัดส่วนของความร้อน (Heat Input) ที่ได้จากเชื้อเพลิงประเภทขยะ 8. การวัดค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศแต่ละชนิดที่ระบายออกจากโรงไฟฟ้า ให้วัดอากาศที่ระบายออกจากปล่องในขณะประกอบกิจการโรงงาน 9. การตรวจวัดค่าปริมาณสารเจือปนในอากาศแต่ละชนิดที่ระบายออกจากปล่องโรงไฟฟ้าให้ใช้วิธี ตามประกาศฉบับนี้กำหนด 10. การคำนวณผลการตรวจวัดค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศ ให้คำนวณผลที่ความดัน 1 บรรยากาศ หรือ 760 มิลลิเมตรปรอท อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ที่สภาวะแห้ง (Dry Basis) โดยมีปริมาตรออกซิเจนส่วนเกิน (Excess Oxygen) ในการเผาไหม้ร้อยละ 7
ดูเพิ่มเติมกิจการตามบัญชีท้ายประกาศกฎกระทรวงนี้ ไม่อยู่ภายใต้บังคับพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554
ดูเพิ่มเติม1. ได้ยกเลิก - ประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2539) เรื่อง กำหนดประเภทของโรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรมเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษที่จะต้องถูกควบคุมการปล่อยน้ำทิ้งลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะหรือออกสู่สิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 3 มกราคม 2539 - ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภทของโรงงานอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม และเขตประกอบการอุตสาหกรรมเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษที่จะต้องถูกควบคุมการปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะหรือออกสู่สิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2560 2. ให้โรงงานอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม และเขตประกอบการอุตสาหกรรม เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษที่ต้องถูกควบคุมการปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะหรือออกสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งโรงงานอุตสาหกรรมดังกล่าว ได้แก่ - โรงงานอุตสาหกรรมทุกจำพวก ตามบัญชีท้ายประกาศนี้ - โรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท ที่มีคนงานตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป โดยห้ามปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะหรือออกสู่สิ่งแวดล้อม เว้นแต่น้ำเสียจะมีลักษณะเป็นไปตามมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม และเขตประกอบการอุตสาหกรรม ที่กำหนดไว้ท้ายประกาศฉบับนี้ ทั้งนี้ ห้ามใช้วิธีการทำให้เจือจาง (Dilution)
ดูเพิ่มเติมกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (DCCE) ได้เชิญช่วยให้ประชาชนทุกภาคส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นต่อ (ร่าง) พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. …. (ครั้งที่ 2) โดยมีการเพิ่มเนื้อหาหมวดที่ 9 กลไกการปรับราคาคาร์บอนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) แทรกขึ้นมา เนื่องจากหากประเทศไทยมีการใช้กลไกราคาคาร์บอน (เช่น ETS ภาษีคาร์บอน เป็นต้น) อาจส่งผลให้เกิดการย้ายฐานการผลิตและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งการนำเข้าสินค้าที่ผลิตจากต่างประเทศเข้ามาแทนที่สินค้าชนิดเดียวกันในประเทศไทย จึงมีการกำหนดกลไกการปรับราคาคาร์บอนข้ามพรมแดน (CBAM) สำหรับสินค้านำเข้าตามที่กระทรวงกำหนด
ดูเพิ่มเติมกำหนดให้เจ้าของแหล่งกำเนิดมูลฝอย เช่น อาคาร สถานที่จำหน่ายและสะสมอาหาร หรือโรงงาน จะต้องดำเนินการคัดแยกและจัดเตรียมภาชนะที่ใช้บรรจุขยะมูลฝอยแต่ละประเภทตามคุณสมบัติที่กำหนด รวมถึงการกำกับข้อความหรือสัญลักษณ์แสดงการรองรับของมูลฝอยแต่ละประเภทบนบรรจุภัณฑ์ โดยจะต้องมีจำนวนเพียงพอต่อปริมาณของขยะมูลฝอยที่ก่อกำเนิดในแต่ละวัน โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจะต้องควบคุมไม่ให้มูลฝอยที่เป็นสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานปะปนออกมากับมูลฝอยตามข้อบัญญัตินี้
ดูเพิ่มเติม© 2019 Green and Blue Planet Solutions. All Rights Reserved.