เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกตาม หลักวิทยาศาสตร์ (Science-Based Targets: SBT)
Science-Based Targets คืออะไร
Science-Based Targets (SBT) คือการกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกตามหลักวิทยาศาสตร์ โดยสอดคล้องตามความตกลงปารีส (Paris Agreement) ในการควบคุมอุณหภูมิของโลกไม่ให้เกิน 1.5°C เมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม
SBT ถูกพัฒนาภายใต้โครงการ Science Based Targets Initiative (SBTi) ซึ่งก่อตั้งขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่าง CDP, United Nations Global Compact, We Mean Business Coalition, World Resources Institute (WRI) และ World Wide Fund for Nature (WWF) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศบนพื้นฐานของหลักวิทยาศาสตร์ในภาคธุรกิจ และเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050
ประเภทของ SBT
SBT มีสองประเภทหลัก ได้แก่ เป้าหมายระยะสั้น (Near-term targets) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero targets)
|
NEAR-TERM |
NET-ZERO |
|
เป้าหมายระยะสั้นตามหลักวิทยาศาสตร์มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า โดยเป็นข้อบังคับสำหรับทุกบริษัทที่ต้องการได้รับการรับรอง SBTi
|
เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตั้งเป้าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% หรือมากกว่า ภายในปี 2050 และจะต้องทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เหลืออยู่เป็นกลางในปีที่บรรลุ Net-Zero และหลังจากนั้น |
| แนวทางและข้อกำหนด
องค์กรที่กำหนดเป้าหมายระยะสั้น สามารถศึกษาแนวทาง Corporate Near-Term Criteria ซึ่งเป็นวิธีการกำหนดเป้าหมายที่สามารถนำไปใช้ได้กับหลายภาคส่วน |
แนวทางและข้อกำหนด องค์กรที่กำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ สามารถศึกษาข้อกำหนดจาก Corporate Net-Zero Standard |
|
หมายเหตุ: สำหรับบางองค์กรในอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงอาจมีความจำเป็นต้องใช้เกณฑ์เฉพาะภาคส่วน เช่น อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ เหล็ก และอื่นๆ |
|
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: https://sciencebasedtargets.org/blog/science-based-targets-101-near-term-and-net-zero
ประโยชน์ของ Science-Based Targets
✅ ประโยชน์เชิงธุรกิจและการเงิน
- เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและความได้เปรียบทางธุรกิจ
- สนับสนุนผลการดำเนินงานทางการเงินระยะยาว และการลดต้นทุน
- เพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
✅ ประโยชน์เชิงกลยุทธ์และความยืดหยุ่นขององค์กร
- เพิ่มความชัดเจนของกลยุทธ์และการตัดสินใจระยะยาว
- เสริมความพร้อมต่อกฎระเบียบและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
- ช่วยบริหารความเสี่ยงจากการเปลี่ยนผ่านและความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ
✅ ประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและความยั่งยืน
- ยกระดับชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจของแบรนด์
- เร่งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม
ใครสามารถเข้าร่วมโครงการกับ SBTi
ธุรกิจทั่วโลกสามารถกำหนดเป้าหมายตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ SBTi พัฒนาเกณฑ์การกำหนดเป้าหมายไว้หลากหลาย ซึ่งบางส่วนสามารถนำไปใช้ได้โดยบริษัทต่างๆ ในหลายอุตสาหกรรม ในขณะที่บางส่วนได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับบริบทเฉพาะของแต่ละภาคส่วน
ขั้นตอนการรับรองเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกับ SBTi
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: https://sbtiservices.com/

