ใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (I-RECs) กับคาร์บอนเครดิต (Carbon Credits) ต่างกันอย่างไร?

ในยุคที่ทุกองค์กรเร่งขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืน หลายท่านยังคงสับสนระหว่าง “คาร์บอนเครดิต” กับ “ใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (RECs)” ซึ่งแม้จะมีเป้าหมายเดียวกันคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่แท้จริงแล้วทั้งสองแนวทางมีกลไก หลักการดำเนินงานและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดแนวทางการดำเนินงานด้านคาร์บอนได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนขององค์กรในระยะยาว

I-REC คืออะไร?

I-REC ย่อมาจาก International Renewable Energy Certificate คือใบรับรองพลังงานหมุนเวียนที่สามารถซื้อขายได้ ซึ่งได้รับการตรวจสอบและรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน I-REC โดยปกติแล้วพลังงานไฟฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ น้ำ และความร้อนใต้พิภพ จะประกอบด้วยปริมาณไฟฟ้าจริงที่ผลิตได้จากโรงไฟฟ้า และใบรับรองคุณลักษณะพลังงาน (Energy Attribute Certificates/ EACs) ที่จะถูกสร้างขึ้นตามปริมาณไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ผลิตขึ้นจริง ซึ่งใบรับรองคุณลักษณะพลังงาน หรือ EACs เหล่านี้สามารถซื้อขายและแลกเปลี่ยนได้

Carbon Credits คืออะไร?

คาร์บอนเครดิต คือ สิทธิที่แสดงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่สามารถลดหรือกักเก็บได้จากการดำเนินโครงการที่มีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซเรือนกระจกสู่สิ่งแวดล้อม คาร์บอนเครดิตที่ถูกรับรองจากหน่วยงานที่ได้มาตรฐานสามารถซื้อขายในรูปแบบของคุณลักษณะด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Attributes) ได้ ในหน่วยตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2eq)

สรุปความแตกต่างระหว่างคาร์บอนเครดิต (Carbon Credits) กับใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (I-RECs)

  1. แหล่งที่มา และหน่วยวัด
    🌿 Carbon Credits เกิดจากโครงการที่มีส่วนช่วยในการลดและกักเก็บก๊าซเรือนกระจก โดยมีหน่วยวัดเรียกว่า ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2eq)

    🔋 I-RECs เกิดจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานชีวมวล โดยไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 1 MWh จะเท่ากับ 1 I-RECs

  2. วัตถุประสงค์และขอบเขตในการนำไปใช้
    🌿Carbon Credits สามารถใช้ชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน Scope 1,2 และ 3 ตามมาตรฐาน GHG Protocol

    🔋 I-RECs จะช่วยในผู้ซื้อสามารถอ้างสิทธิ์ในการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนได้ และสามารถชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน Scope 2 ตามมาตรฐาน GHG Protocol

  3. ตัวอย่างโครงการ
    🌿Carbon Credits โครงการปลูกป่า, เทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน, การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน

    🔋 I-RECs โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ และอื่นๆ

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ทั้งคาร์บอนเครดิต (Carbon Credits) และใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (I-RECs) ต่างเป็นเครื่องมือสำคัญที่องค์กรสามารถเลือกใช้เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าใจและเลือกใช้กลไกทั้งสองอย่างอย่างถูกต้องและสอดคล้องกับบริบทขององค์กร จะช่วยให้การขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว เป็นไปอย่างมีระบบ โปร่งใส และตรวจสอบได้