EU CBAM มาตรการปรับราคาคาร์บอนของสหภาพยุโรปส่งผลกับผู้ประกอบการไทยอย่างไร

มาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรหมแดน (CBAM) เป็นหนึ่งในกลไกภายใต้ข้อกำหนด Fit for 55 ของสหภาพยุโรป (EU) เพื่อสนับสนุนเป้าหมายและนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ต้องการจะไปถึงเป้าหมาย Climate Neutral ในปี 2050

ผ่านมาเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรหมแดนของสหภาพยุโรป หรือ CBAM ได้ประกาศใช้เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2566  CBAM ผู้ประกอบการที่ส่งออกสินค้าภายใต้มาตรการ CBAM ไปยังสหภาพยุโรปต้องปรับตัวให้สามารถดำเนินการตามข้อกำหนดของมาตรการ CBAM โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบในประเทศไทยหลักๆ ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กหล้า อะลูมิเนียม โดยในอนาคตอาจมีการขายขอบเขตของสินค้าไปยังผลิตภัณฑ์ปลายน้ำมากขึ้น

สินค้าที่ได้รับผลกระทบภายใต้มาตรการ CBAM 6 ประเภท ได้แก่

      1. เหล็กและเหล็กหล้า (Iron and Steel)
      2. อะลูมิเนียม (Aluminium)
      3. ซีเมนต์ (Cement)
      4. ปุ๋ย (Fertilizer)
      5. ไฟฟ้า (Electricity)
      6. ไฮโดรเจน (Hydrogen)


ปัจจุบันการดำเนินงานของมาตรการ CBAM อยู่ในช่วงระยะเวลาการเปลี่ยนผ่าน (Transitional Period) ระหว่างปีพ.ศ. 2566 ถึง พ.ศ. 2568 เป็นระยะที่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ปรับตัวในการปฏิบัติตามข้อกำหนด ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการที่มีฐานการผลิตอยู่นอกสหภาพยุโรป ผู้นำเข้าสินค้า และหน่วยงานกำกับดูแล โดยสำหรับช่วงเปลี่ยนผ่านนั้น ผู้นำเข้ายังไม่ต้องมีการจ่ายค่าธรรมเนียมคาร์บอน (CBAM Certificates) แต่เมื่อเข้าสู่ระยะบังคับใช้ (Definitive Period) ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2569  จะมีการคิดค่าธรรมเนียมคาร์บอนจากสินค้านำเข้าที่มีการปล่อยมลพิษเกินข้อกำหนด โดยราคาจะอ้างอิงจากราคาคาร์บอนที่ทำการประมูลเพื่อซื้อขายระบบ EU ETS และสามารถหักลบค่าธรรมเนียมคาร์บอนที่จ่ายไปแล้วที่ต้นทางได้ตามเงื่อนไข

ระยะการบังคับใช้ของมาตรการ CBAM


ผู้นำเข้ากลุ่มสินค้าที่เข้าข่ายตามมาตรการ CBAM จำเป็นต้องรายงานข้อมูลของสินค้าและปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้า (Embedded Emission) ซึ่งคำนวณตามข้อกำหนดของมาตรการ CBAM โดยรายงานในหน่วยตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อตันสินค้าแต่ละชนิด (t CO2 e/ t goods) ดังนั้นผู้ประกอบการที่มีฐานการผลิตอยู่นอกสหภาพยุโรปมีหน้าที่จะต้องดำเนินการเก็บรวบรวมและคำนวณข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้าที่ตนเองผลิต เพื่อส่งให้กับผู้นำเข้าที่ต้องนำข้อมูลรายงานไปยัง EU Commission ผ่านระบบ CBAM Transitional Registry

ขอบเขตการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้า (Embedded Emission)

ค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้า (Embedded Emission) สามารถคำนวณได้จาก

      • Direct emissions = ก๊าซเรือนกระจกทางตรงในกระบวนการผลิต เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิง การทำปฏิกิริยาในกระบวนการผลิต การผลิตความร้อน/ความเย็น การจำกัดก๊าซเหลือทิ้ง เป็นต้น
      • Indirect emissions = ก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้าสำหรับใช้ในกระบวนการผลิตสินค้า
      • Precursor emissions = ก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิตวัตถุดิบตั้งต้นที่นำมาใช้ในการผลิตสินค้า

อัปเดตข่าวสารข้อมูล CBAM ล่าสุด 2025

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2025 คณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอ CBAM simplification package ภายใต้ Omnibus package ฉบับแรก เพื่อช่วยลดภาระและทำให้กลไกการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM) ง่ายขึ้น โดยมีประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้


แหล่งอ้างอิง : https://taxation-customs.ec.europa.eu/carbon-border-adjustment-mechanism_en