ทำความรู้จักกับฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ (Environmental Product Declaration: EPD)

ฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ (Environmental Product Declaration: EPD) เป็นฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 3 ตามมาตรฐาน ISO 14025:2006 โดยมีลักษณะคล้ายคลึงกับฉลากที่แสดงรายการส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ แต่เพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment: LCA) ตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง การใช้งาน จนถึงการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังหมดอายุการใช้งาน โดยฉลาก EPD จะมีการระบุปริมาณผลกระทบที่ผลิตภัณฑ์มีต่อสิ่งแวดล้อมในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

    • การก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน
    • การลดลงของโอโซนในบรรยากาศชั้นสตราโทสเฟียร์
    • การก่อให้เกิดความเป็นกรด
    • การเพิ่มขึ้นของธาตุอาหาร
    • การเกิดโอโซนในบรรยากาศชั้นโทรโปสเฟียร์
    • การลดลงของทรัพยากรพลังงานที่ไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้
    • การลดลงของทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่ใช่เชื้อเพลิงฟอสซิล

การรับรองฉลาก EPD เป็นกระบวนการที่ดำเนินการโดยสมัครใจของผู้ประกอบการ ซึ่งต้องดำเนินการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ตามหลักการของ LCA และต้องได้รับการตรวจสอบและรับรองโดยหน่วยรับรอง (บุคคลที่สาม) ที่มีความน่าเชื่อถือ ฉลากนี้จึงทำหน้าที่เสมือนเครื่องยืนยันว่า ข้อมูลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการประเมินและรับรองอย่างถูกต้อง

สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทย สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (Thailand Environment Institute: TEI) โดยฝ่ายฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม ได้ตระหนักถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรม ดังนั้น จึงได้ริเริ่มนำฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ (Environmental Product Declaration: EPD) ดังกล่าวเข้ามาใช้เป็นกลไกหนึ่งในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดทั้งในและต่างประเทศ


กระบวนการขอรับรองฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ (Environmental Product Declaration: EPD)

    1. ยื่นคำขอรับรองฉลาก EPD ต่อสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย
    2. เข้ารับการทวนสอบผลการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ โดยผู้ทวนสอบที่ขึ้นทะเบียนกับสถาบันฯ
    3. การสมัครขอการรับรองฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์
    4. การเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและตัดสินการรับรอง โดยฝ่ายฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม
    5. การชำระค่าธรรมเนียมสำหรับการใช้เครื่องหมายฉลาก
    6. การจัดทำใบรับรองและลงนามในสัญญาการใช้เครื่องหมายฉลาก EPD

ผลิตภัณฑ์ใดบ้างที่สามารถยื่นขอการรับรองฉลาก EPD ได้

ในการยื่นขอการรับรองฉลาก EPD ผลิตภัณฑ์หลาย ๆ ประเภทไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ วัสดุและอุปกรณ์ตกแต่ง รวมไปถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางชนิด ที่สามารถประเมินวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ได้นั้น สามารถยื่นขอการรับรองฉลาก EPD ได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว กลุ่มอุตสาหกรรมที่มักจะมีการยื่นขอรับรองฉลาก EPD ส่วนใหญ่จะเป็น อุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในกลุ่มวัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้าง เช่น กระเบื้อง ปูนซีเมนต์ แผ่นยิปซัม และวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทรัพยากรและพลังงานจำนวนมากในกระบวนการผลิต จึงมีความจำเป็นต้องแสดงข้อมูลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน เพื่อเสริมสร้างความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ฉลาก EPD นอกจากจะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผลิตภัณฑ์แล้ว ยังมีส่วนช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง โปร่งใส และครบถ้วน เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริมพฤติกรรมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน และสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาวของประเทศอีกด้วย