ประกาศในราชกิจจานุเบกษา: 20 สิงหาคม 2564   

จากประกาศได้กำหนดความหมายของคำว่า “ขยะพลาสติก” หมายถึงชิ้นงาน หรือชิ้นส่วนพลาสติกที่ใช้งานแล้วหรือไม่ก็ตามจนถูกนำไปทิ้ง หรือไม่เป็นที่ต้องการใช้อีกต่อไป หรือเสื่อมสภาพจนไม่สามารถใช้งานได้ หรือมีการปนเปื้อนกับขยะอื่นหรือวัสดุประเภทอื่น และ “เศษพลาสติก” หมายความว่า เศษ เศษตัดและของที่ใช้ไม่ได้ที่เป็นพลาสติกไม่ว่าใช้แล้วหรือไม่ก็ตาม ตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราศุลกากรประเภท 39.15 โดยการนำเข้าพลาสติกที่ผ่านมาเป็นการนำเข้าเศษพลาสติกเพื่อเป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น ไม่ใช่การนำเข้าขยะพลาสติก ซึ่งตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 112) พ.ศ.2539 กำหนดให้เศษ เศษตัด และของที่ใช้ไม่ได้ ซึ่งเป็นพลาสติกไม่ว่าใช้แล้วหรือไม่ก็ตาม ตามพิกัดอัตราศุลกากร ประเภท 39.15 เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักรตามความเห็นชอบของกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพื่อความชักเจน โปร่งใส กระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการเกี่ยวกับ การอนุญาตให้นำเศษ เศษตัด และของที่ใช้ไม่ได้ ซึ่งเป็นพลาสติกไม่ว่าใช้แล้วหรือไม่ก็ตามเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ดังนี้

  • ผู้ประกอบกิจการโรงงานต้องนำเข้าเพื่อใช้เศษพลาสติกเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าในโรงงานเท่านั้น       
  • เศษพลาสติกที่นำเข้าต้องแยกประเภทแต่ละชนิดและนำเข้าสู่กระบวนการผลิตได้โดยไม่ต้องใช้กระบวนการทำความสะอาดอีก       
  • เศษพลาสติกที่นำเข้าต้องบด หรือ ตัดให้มีความยาวสูงสุดไม่เกิน 2 เซนติเมตร โดยประมาณ

วันที่ 15 สิงหาคม 2561 คณะอนุกรรมการเพื่อบูรณาการการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกที่นำเข้าจากต่างประเทศอย่างเป็นระบบมีมติให้ยกเลิกการนำเข้าเศษพลาสติกภายใน 2 ปี หมายความว่าห้ามการนำเข้าขยะพลาสติกเด็ดขาดภายในสิ้นกันยายน 2563  ต่อมามีกลุ่มภาคอุตสาหกรรมพยายามผลักดันให้กระทรวงอุตสาหกรรมเปิดการนำเข้าเศษพลาสติกโดยให้เหตุผลว่าขาดแคลนวัตถุดิบในประเทศ ต่อมาในวันที่ 25 มกราคม 2564 การประชุมคณะอนุกรรมการการบริหารจัดการขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ มีมติปรับเปลี่ยนโยบายจากยกเลิกการนำเข้าเศษพลาสติกโดยเด็ดขาด ตามมติคณะอนุกรรมการฯ เดิมที่มีขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561 เป็นกำหนดแผนควบคุมการนำเข้าเศษพลาสติก ตั้งเป้าที่จะห้ามนำเข้าขยะพลาสติก100 %ในอีก 5 ปี หรือตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้ธุรกิจด้านอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบมากเกินไป โดยนโยบายดังกล่าวยังคงเป็นที่ถกเถียงระหว่างหน่วยงานรัฐกับเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมและสมาคมซาเล้ง รวมไปถึงร้านรับซื้อของเก่า

สำหรับท่านที่สนใจอ่านรายละเอียดของประกาศของกรมควบคุมมลพิษดังกล่าวสามารถอ่านต่อ [link]